สุขภาพสัตว์เลี้ยง
10 สัญญาณที่บ่งบอกว่าสุนัขของคุณ เริ่มแก่
น้องหมาไม่ใช่เพียงแค่สัตว์เลี้ยง แต่เรียกได้ว่าถูกยกฐานะขึ้นมาเปรียบเสมือนเป็นสมาชิกของครอบครัวคนหนึ่งของเรา ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายๆบ้านจะมีสรรพนามให้กับน้องหมาเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น พี่ น้อง คุณ จนไปถึงลุง ป้า เพราะช่วงเวลาชีวิตของน้องหมาผ่านไปเร็วกว่าเราหลายเท่าตัว รู้ตัวอีกที น้องหมาของเราก็ก้าวสู่วัยแก่แล้ว
อายุเพียง 6-7 ปี ของน้องหมาพันธุ์ใหญ่ก็เริ่มที่จะเข้าสู่ช่วงวัยแก่ เป็นหมาสูงอายุ อาจเทียบเคียงกับวัยของคนได้อย่างคร่าวๆ โดยการคูณ 7 แต่ความจริงแล้วหมาต่างพันธุ์ต่างขนาด จะโตและแก่ต่างกันไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพของเจ้าของอีกด้วย
แม้ว่าสุนัขที่เข้าสู่ช่วงอายุมากแล้ว หลายคนยังเห็นว่าแข็งแรงดี ภายนอกไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ทั้งนี้ก็อย่าพึ่งวางใจ เพราะถึงภายนอกจะดูไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ภายในร่างกายของพวกเขาอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามอายุจนไม่เหมือนเดิมแล้ว ดังนั้นเราจึงต้องหมั่นสังเกตพฤติกรรมของพวกเขาเพื่อที่จะได้ระมัดระวังและดูแลได้อย่างถูกต้อง ซึ่งพฤติกรรมที่สามารถสังเกตุได้เมื่อสุนัขของคุณเริ่มเข้าสู่วัยแก่ คือ
พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของสุนัข
1.ยืนนิ่งๆ ไม่ขยับไปไหนอยู่มุมห้อง หรือหน้าประตู
2. เดินวนอยู่กับที่ ไม่ไปไหนซัก
3. ขับถ่ายในบ้าน (เพราะเข้าใจว่าในบ้านคือนอกบ้าน
5. เบื่ออาหาร ไม่สนใจ ไม่ยอมกิน (แม้จะเป็นของชอบก็ตาม)
7. หลับตอนกลางวัน แต่มาคึกคักตอนกลางคืนแทน
8. ไม่ตอบสนองกับเจ้าของเหมือนเก่า
1.ยืนนิ่งๆ ไม่ขยับไปไหนอยู่มุมห้อง หรือหน้าประตู
น้องหมาที่มีอาการยืนอยู่นิ่งๆ เหมือนหาทางออกไม่ได้ ร้องให้คนช่วย บางตัวอาการหนักมากๆ ก็จะยืนเข้าหากำแพง แล้วจ้องเหมือนโดนสะกดจิต โดยสาเหตุของพฤติกรรมนี้ มาจากาการหลงลืมจากโรคอัลไซเมอร์ (canine cognitive dysfunction syndrome) ในน้องหมาแก่นั่นเอง ซึ่งโรคนี้เป็นความผิดปกติของความคิด และการรับรู้ น้องหมาจะลืมไปว่าตัวเองกำลังอยู่ที่ไหน จะไปที่ใด แล้วจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร
2. เดินวนอยู่กับที่ ไม่ไปไหนซักที
น้องหมาที่แก่แล้วสามารถเกิดอาการหลงลืมจุดประสงค์ของการทำกิจกรรมต่างๆ หรือลืมไปว่าตัวเองกำลังจะทำอะไร ก็เลยเดินงงๆ คิดไปคิดมา รู้สึกสับสน พฤติกรรมนี้มีสาเหตุมาจากโรคอัลไซเมอร์เช่นเดียวกัน และบ่อยครั้งจะมีความรู้สึกวิตกกังวลรวมอยู่ด้วย เนื่องจากสูญเสียความมั่นใจค่ะ ดังนั้นผู้เลี้ยงจะต้องพยายามดึงความสนใจของเขา เช่น หรือกิจกรรมให้น้องหมาเล่น หรือเรียกน้องหมาบ่อยๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นความทรงจำของน้องหมา
3. ขับถ่ายในบ้าน (เพราะเข้าใจว่าในบ้านคือนอกบ้าน)
บางบ้านน้องหมาอาจจะเริ่มมีพฤติกรรม ฉี่ ถ่าย หรือขุดพื้นกระเบื้องภายในบ้าน เพราะคิดว่าเป็นสนามหญ้า ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เจ้าของต้องทำความเข้าใจว่าน้องหมาเริ่ม มีอาการความจำจะเลอะเลือน โดยธรรมชาติน้องหมาแก่เซลล์สมองก็จะค่อยๆ ตายลงมีผลทำให้การสั่งการของสมองหยุดชะงักลง น้องหมาไม่ได้มีเจตนาแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวแต่อย่างใด แต่เขาแค่จำที่ขับถ่ายไม่ได้ต่างหากค่ะ
อย่างไรก็ตาม การที่น้องหมาแก่ฉี่หรือถ่ายภายในบ้าน อาจไม่ได้หมายถึงว่าน้องหมาเป็นโรคอัลไซเมอร์เสมอไป บางทีอาจเกิดจากการทำงานของไตลดประสิทธิภาพลง ลำไส้อักเสบ กล้ามเนื้อหูรูดเสื่อม กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ทำให้พวกเขาไม่สามารถกลั้นฉี่กลั้นอึได้ หรือน้องหมาบางตัวอาจแสดงออกว่าตัวเองเครียดด้วยการถ่ายภายในบ้าน ผู้เลี้ยงจึงควรสังเกตให้ดีก่อนว่ามีสาเหตุมาจากอะไร เพื่อที่จะแก้ไขได้ถูกจุด
4. เห่าแบบไม่มีสาเหตุ
น้องหมาที่มีอาการ หลงทิศทาง หรือบางตัวความจำเสื่อมจำบ้าง จำคนในครอบครัวไม่ได้ เพราะเมื่อน้องหมาแก่ หูตาอาจฟ่าฟางทำให้ประสิทธิภาพในการมองเห็นและการได้ยินไม่ดีเช่นเดิม เขาก็จะเห่าเพื่อเรียกร้องความสนใจ หรือร้องเพราะรู้สึกสับสน เหงา เครียด และวิตกกังวล ซึ่งอาจจะเป็นบางช่วงจังหวะ อย่างเช่น ในเวลาตอนกลางคืน หรือในบางสถานการณ์ ไม่ได้เป็นประจำหรือเป็นตลอดทั้งวัน แต่มักเห่าเป็นช่วงๆ เลิก น้องหมาจะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ พยายามดึงความสนใจของน้องหมาด้วยสิ่งที่เขาชอบหรือสนใจจะช่วยให้ดีขึ้นได้
5. เบื่ออาหาร ไม่สนใจ ไม่ยอมกิน (แม้จะเป็นของชอบก็ตาม)
ปกติน้องหมาแก่ก็กินอาหารยาก และกินน้อยลงอยู่แล้ว แต่สำหรับน้องหมาบางตัวพฤติกรรมไม่สนใจอาหาร ไม่กินอาหารที่อยู่ตรงหน้า อาจไม่ได้เป็นเพราะพวกเขาเบื่ออาหาร แต่เป็น และบางตัวถึงขั้นลืมไปว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคืออาหารอีกด้วย! อย่างไรก็ตามน้องหมาที่ไม่กินอาหารก็สามารถมีสาเหตุมาจากการเผาผลาญพลังงานที่ผิดปกติ หรือโรคที่เกี่ยวกับกับฮอร์โมนต่างๆ เช่น ไทรอยด์ เบาหวาน ฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต น้องหมาจะซึมไม่กินอาหาร ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงควรพาน้องหมาไปพบสัตวแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด เพราะการที่น้องหมาไม่กินอาหารจะทำให้ร่างกายอ่อนแอ ขาดสารอาหาร และอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ค่ะ
6. เมินใส่เจ้าของซะงั้น
น้องหมาของใครที่มีอาการเริ่มเมินเฉยกับเจ้าของ ทั้งๆที่เมื่อก่อนน้องหมารักชอบให้เราลูบ เรากอด อยู่ติดกับเราไม่ห่าง แต่ตอนนี้กลับมองเราคล้ายเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน พอจะลูบ ก็เดินหนี หรือบางตัวถึงขั้นขู่เจ้าของกนเลยทีเดียว ถ้าน้องหมาของใครมีพฤติกรรมแบบนี้ ไม่ต้องเครียดหรือน้อยใจไป เพราะเมื่อน้องหมาแก่ความทรงจำเลอะเลือน ก็จำเจ้าของตัวเองไม่ได้เป็นธรรมดา
หรือบางตัวเมื่อก็อาจจะกลายเป็นน้องหมาขี้รำคาญ มีโรคส่วนตัวสูง ไม่กระตือรือร้นที่จะสร้างสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับเจ้าของเหมือนแต่ก่อน พยายามอย่าเข้าไปวุ่นวายกับเขา ควรปล่อยให้เขาอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง แต่ก็ควรแบ่งเวลาพาไปออกกำลังกาย และทำกิจกรรม เพื่อให้เขาได้ตื่นตัวมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันอีกด้วยค่ะ
7.หลับตอนกลางวัน แต่มาคึกคักตอนกลางคืนแทน
น้องหมาแก่มักจะสับสนเรื่องเวลา จำคืนวันเลอะเลือน จึงไม่แปลกที่เรามักจะเป็นเขานอนหลับในเวลากลางวันแล้วตื่นมาเดินเพ่นพ่านในเวลากลางคืน บางตัวหนักหน่อยจะเห่าเรียกตลอดคืน เพราะเขาอาจจะคิดว่าตัวเองถูกทิ้งให้อยู่ตัวเดียว เกิดความเหงา วิตกกังวลว่าจะถูกทิ้ง ดังนั้นผู้เลี้ยงควรพาน้องหมาไปเดินเล่น ทำกิจกรรม หรือออกกำลังกายในช่วงเย็นให้นานหน่อย เพื่อให้เขารู้สึกเหนื่อย เพลีย และนอนในเวลากลางคืน
8. ไม่ตอบสนองกับเจ้าของเหมือนเก่า
เนื่องจากประสิทธิภาพในการได้ยินของน้องหมาลดลง ทำให้เกิดอาการหูตึง หรือหูหนวกค่ะ พวกเขาจึงไม่สามารถได้ยินเราพูด และทำตามคำสั่งของเราได้ เป็นสาเหตุที่น้องหมาแก่ไม่สามารถตอบสนองคำสั่งได้อย่างเช่นแต่ก่อน เพื่อนๆ อาจจะต้องใช้ภาษามือในการสื่อสารกับน้องหมาแทน ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งก็มาจากการสูญเสียความทรงจำ ลืมคำสั่งที่เคยได้รับการฝึกมา จึงส่งผลให้น้องหมาไม่เชื่อฟังคำสั่ง ดื้อ เฉยเมยต่อคำสั่ง และวินัย ไม่สามารถควบคุมพวกเขาได้เช่นเดิม ซึ่งตรงนี้เจ้าของอาจจะต้องใส่ใจน้องหมามากกว่าเดิมเป็นพิเศษ
9. กลายเป็นน้องหมาขี้โมโห
แต่ก่อนน้องหมาของเราก็เล่นกับน้องหมาตัวอื่นๆได้ เป็นน้องหมานิสัยดี เป็นมิต แต่พออายุมากขึ้นกลับกลายเป็นน้องหมาขี้โมโห มีพฤติกรรมก้าวร้าว หาเรื่องกัดกับน้องหมาตัวอื่นๆ ทั้งๆ ที่เคยเป็นเพื่อนเล่นกันมาก่อน นั่นก็เป็นเพราะว่าเมื่อน้องหมาอายุมากพวกเขาจะหงุดหงิดง่าย ขี้รำคาญ และต้องการแสดงอำนาจ จนลืมไปว่าตัวเองทั้งแก่ ทั้งอ่อนแอกว่า จึงทำให้ต้องบาดเจ็บอยู่บ่อยๆ นอกจากนี้ยังมีสาเหตุมาจากโรคอัลไซเมอร์ในน้องหมาอีกด้วยค่ะ เพราะเมื่อการรับรู้ ความคิด และสมองไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ย่อมส่งผลต่อเรื่องการควบคุมอารมณ์และการเคลื่อนไหว และไม่ต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับน้องหมาตัวอื่น รู้สึกระแวง จึงแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวออกมา ทั้งขู่ กระโจน และกัด เจ้าของจึงควรสังเกตพฤติกรรมของเขา และควร ใส่สายจูงทุกครั้งที่พาน้องหมาออกมาเดินนอกบ้าน
10. เดินชนข้าวของไปทั่ว
น้องหมาแก่ไม่ว่าสายพันธุ์ไหน ก็มักมีโรคประจำตัวที่ต้องพกมาด้วยนั่นก็คือ โรคต้อกระจก เมื่ออายุเริ่มย่างเข้า 5 ปี จอประสาทตาเริ่มเสื่อม ภาพที่เคยเห็นชัดเจนเริ่มพล่ามัว เริ่มแรกเราอาจจะไม่สามารถสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของดวงตาได้ ให้สังเกตุจากพฤติกรรมน้องหมา เช่น เดินชนข้าวของระยะใกล้ มองไม่เห็นอาหารที่วางไว้ เวลาเราเดินผ่าน หรือแตะตัวน้องหมา เขามักจะตกใจ สะดุ้ง หรือกระโดดหนี เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสาเหตุมาจากโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย น้องหมาจะมีความผิดปกติทางประสาทและการรับรู้ พวกเขาจะประสบปัญหากับการหลบสิ่งของที่อยู่ตรงหน้า หรืออยู่ในบ้าน งงว่ามันคืออะไรต้องทำอย่างไร บางครั้งก็ติดแหง็กอยู่ใต้โต๊ะ หรือซอกตู้ ซึ่งหากเราสามารถรู้สาเหตุได้ทัน ก็จะสามารถรักษาน้องหมาได้ทันท่วงที
น้องหมาที่บ้านเราในวันนี้อาจจะไม่ได้น่ารัก รูปลักษณ์อาจจะเปลี่ยนไป ไม่สวยเหมือนเดิม แต่ทุกๆประสบการณ์ ทุกความทรงจำเวลาที่เคยใช้ร่วมกันมาจะยังคงอยู่ ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเขาคือเพื่อนที่ดีที่สุด เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวและได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว ดังนั้นไม่ว่าในอนาคตเขาจะเป็นยังไง ก็อย่าลืมที่จะรักและใส่ใจเขาให้เหมือนกันในทุกๆวันนะคะ
พิเศษสำหรับคนอ่านบทความด้านบนนี้เท่านั้น
กรอกข้อมูล เพื่อรับส่วนลดพิเศษ 10% ยกร้าน (ใช้เมื่อไหร่ก็ได้)
และมีสิทธิ์ได้รับข่าวสาร การแจกฟรีผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงเพื่อทดลองใช้ก่อนใคร
